Skip to content

Bitcoin Winter : ความเสี่ยง หรือ โอกาส ของ MicroStrategy? (คุณทิว ปกป้อง x Trader KP)

ส่องมุมมองเจาะลึก: 5 ความจริงสวนกระแสในวันที่ Bitcoin เป็นขาลง จากบทวิเคราะห์ของ ‘ทิว ปกป้อง’

ท่ามกลางความกลัวและความไม่แน่นอนที่ปกคลุมตลาด Bitcoin หลังจากการปรับตัวลงกว่า 30% จากจุดสูงสุด หลายคนเริ่มเอ่ยถึงคำว่า “Bitcoin Winter” หรือ “ฤดูหนาวของ Bitcoin” กันอีกครั้ง แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเบื้องหลังภาพตลาดขาลงนี้ กลับซ่อนเรื่องราวที่ซับซ้อนกว่านั้น และเผยให้เห็นสัญญาณของความแข็งแกร่งและการเติบโตที่น่าประหลาดใจ?

บทความนี้จะกลั่นกรอง 5 ประเด็นสำคัญที่น่าทึ่งและสวนกระแส จากบทสนทนาเจาะลึกกับผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณ ‘ทิว’ ปกป้อง คล่องใจภักดี เพื่อมอบมุมมองที่ลึกซึ้งกว่าพาดหัวข่าวทั่วไป และอาจเปลี่ยนวิธีที่คุณมองตลาดขาลงในครั้งนี้ไปอย่างสิ้นเชิง

การ ‘ร่วง’ ครั้งนี้ คือสัญญาณของ ‘ตลาดที่เติบโตขึ้น’ ไม่ใช่การล่มสลาย

แนวคิดที่สวนทางกับความรู้สึกอย่างสิ้นเชิงคือ การที่ราคา Bitcoin ถูกกดดันอยู่ในขณะนี้ แท้จริงแล้วกลับเป็นสัญญาณที่ดีต่อสุขภาพของตลาดในระยะยาว

บทวิเคราะห์ชี้ว่า การมาถึงของ Bitcoin ETF ได้สร้างสภาพคล่อง (Liquidity) มหาศาลเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้กระเป๋าเงินเก่าแก่ที่ถือ Bitcoin มานานกว่า 7-10 ปี สามารถทยอยขายเหรียญจำนวนมากออกมาได้โดยไม่ทำให้ตลาดล่มสลายเหมือนในอดีต กระบวนการนี้เรียกว่า “การโรเทชั่น” (Rotation) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนมือของ Bitcoin จากผู้ถือยุคแรกๆ ไม่กี่ราย ไปสู่ผู้เข้าร่วมตลาดที่หลากหลายและมีจำนวนมากขึ้น ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันหน้าใหม่

นี่ไม่ใช่เหตุการณ์บังเอิญ แต่เป็นช่วงเวลาที่จำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อการเติบโต เป็นบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะใหม่ของตลาดและความสามารถในการดูดซับแรงขายมหาศาล ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคตในระยะยาว

การที่เค้ามี liquidity พอที่เขาจะออกเป็นพันๆ เป็นพันๆ ล้านดอลลาร์ ขายเหรียญเป็นหมื่นๆ เหรียญ แล้วตลาดลงไม่มาก หรือยังขึ้นอยู่ในในกรอบเดิมได้ แปลว่า Liquidity มันสูง แปลว่าจริงๆ การยอมรับมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น จริงๆ ไซเคิลนี้มันเป็นสิ่งต้องผ่าน มันโชว์ให้เห็นว่า Bitcoin เป็นผู้ใหญ่พอที่จะรองรับ Liquidity ที่ใหญ่ขนาดนั้นได้ โดยที่ไม่กระเทือนต่อตัวเอง


อย่าเพิ่งรีบ: ตลาดอาจต้องใช้เวลาถึง ‘ปีหน้า’ ถึงจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง

จากกระบวนการ “โรเทชั่น” ที่เป็นไปอย่างช้าๆ ดังที่กล่าวไปในข้อแรก จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในเร็ววันนี้

บทวิเคราะห์ได้เปรียบเทียบการขายอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเจ้าของกระเป๋าเงินเก่าแก่เหล่านี้ว่าไม่ต่างจาก “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ทยอยขายหุ้นของตัวเองออกมาหลังการ IPO” สิ่งสำคัญคือจิตวิทยาของคนกลุ่มนี้ พวกเขาถือครอง Bitcoin มานาน 7-10 ปี และมีกำไรมหาศาลนับร้อยเท่า จึงไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนขาย พวกเขามีแนวโน้มที่จะทยอยปล่อยของออกมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการสร้างแรงกดดันที่ต่อเนื่องและทำให้ราคาไม่สามารถปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วได้

ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญจึงคาดการณ์ว่ากระบวนการเปลี่ยนมือนี้อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5-6 เดือน ซึ่งอาจผลักดันให้ไทม์ไลน์ของการกลับไปทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) ต้องเลื่อนออกไปถึงปีหน้า บทสรุปในข้อนี้คือ นักลงทุนอาจต้องปรับความคาดหวังและเตรียมใจว่าตลาดอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่าที่คิด


Paradox ของ MicroStrategy: ‘เครื่องจักรสะสม Bitcoin’ ทำงานได้ดีที่สุดตอน ‘ราคาแพง’

นี่คือหนึ่งในแนวคิดที่สวนกระแสมากที่สุด นั่นคือโมเดลการสะสม Bitcoin ของ MicroStrategy (MSTR) กลับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วง “ตลาดขาขึ้น” ไม่ใช่ช่วงตลาดขาลงที่หลายคนคิดว่าพวกเขาจะได้ “ซื้อของถูก”

กลไกเบื้องหลังเรื่องนี้คือ “วงล้อระดมทุน” (capital-raising flywheel) ของบริษัท:

• ในช่วงตลาดขาขึ้น: ราคาหุ้นของ MSTR มักจะปรับตัวขึ้นเร็วกว่าราคาของ Bitcoin ทำให้เกิดส่วนต่างพรีเมียม (Premium หรือ MNAP) ที่สูง พรีเมียมที่สูงนี้เองที่ทำให้บริษัทสามารถระดมทุนมหาศาลผ่านการออกหุ้นใหม่ได้อย่างง่ายดาย เพื่อนำเงินไปซื้อ Bitcoin เพิ่ม ซึ่งกลไกป้อนกลับเชิงบวกนี้จะยิ่งหมุนเร็วขึ้นเมื่อตลาดคึกคัก

• ในช่วงตลาดขาลง: พรีเมียมของหุ้นจะหดตัวลง ทำให้วงล้อระดมทุนนี้แทบจะหยุดหมุน การออกหุ้นใหม่ทำได้ยากและมีประสิทธิภาพน้อยลงมาก แม้ว่าในเวลานี้ Bitcoin จะดู “ราคาถูก” แต่ความสามารถในการเข้าซื้อในปริมาณมากๆ ของบริษัทกลับลดน้อยถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ

ตอนคุณซื้อแพง คุณอาจจะต้องซื้อแพง แต่ตอนคุณซื้อแพง คือตอนที่คุณระดมเงินได้แบบมันมือที่สุด

บททดสอบที่แท้จริง: ไม่ใช่ราคาหุ้น แต่เป็น ‘เครื่องมือทางการเงิน’ ชุดใหม่

เมื่อการออกหุ้นสามัญเพื่อระดมทุนอ่อนประสิทธิภาพลงในช่วงตลาดขาลง คำถามสำคัญคือ MicroStrategy จะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างไร? คำตอบอยู่ที่เครื่องมือทางการเงินชุดใหม่ที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ซึ่งกำลังถูกทดสอบอย่างหนักเป็นครั้งแรก

บริษัทได้เตรียมเครื่องมือทางเลือกอื่นไว้ โดยเฉพาะ “หุ้นบุริมสิทธิ์” (Preferred Stock) ซึ่งมีตัวชูโรงที่ชื่อว่า STRC ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นแหล่งเงินทุนที่มั่นคงและได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาหุ้น MSTR น้อยกว่า แต่สถานการณ์ปัจจุบันได้เผยให้เห็นจุดอ่อน เมื่อราคาของ STRC เองก็ปรับตัวลดลง โดยเคยลงไปแตะระดับ 94-95 ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาที่ 96 ทำให้ประสิทธิภาพในการระดมทุนผ่านช่องทางหลักนี้ลดลงชั่วคราว

บททดสอบที่แท้จริงจึงไม่ได้อยู่ที่ STRC เพียงตัวเดียว แต่เป็นการทดสอบ “กลยุทธ์การเงินทางเลือกทั้งระบบ” เพราะเมื่อ STRC ทำงานได้ไม่เต็มที่ ภาระก็จะตกไปอยู่ที่หุ้นบุริมสิทธิ์ตัวอื่นๆ (STRFSTRKSTRD) ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายที่น้อยกว่ามาก นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าวิศวกรรมทางการเงินของพวกเขาจะผ่านบททดสอบนี้ไปได้หรือไม่


ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่: ไม่ใช่ข่าว FUD แต่คือ ‘หนี้’ ที่จะครบกำหนดในอีก 2 ปีข้างหน้า

ในขณะที่หลายคนกังวลกับข่าวลือต่างๆ เช่น การถูกถอดถอนออกจากดัชนี MSCI บทวิเคราะห์กลับชี้ว่าประเด็นเหล่านั้นมีความสำคัญน้อยกว่าในระยะสั้น และสามารถจัดการได้ จากการคำนวณพบว่า หากบริษัทต้องระดมทุนเพื่อจ่ายดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว พวกเขาจำเป็นต้องขายหุ้นในแต่ละวันคิดเป็นมูลค่าเพียง 0.25% – 0.5% ของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ภาระที่หนักหนาแต่อย่างใด

ความเสี่ยงที่แท้จริงในระยะยาวสำหรับ MicroStrategy คือ “หุ้นกู้แปลงสภาพ” (Convertible Debt) ล็อตใหญ่ที่จะมีเงื่อนไขให้ไถ่ถอนก่อนกำหนดได้ในเดือนกันยายน 2027 หากถึงวันนั้นแล้วราคาหุ้นของ MSTR ยังคงอยู่ต่ำกว่าราคาแปลงสภาพที่กำหนดไว้ (ประมาณ 180 ดอลลาร์สำหรับล็อตดังกล่าว) บริษัทจะต้องหาเงินสดหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อมาจ่ายคืนหนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่บีบให้พวกเขาต้อง “ขาย Bitcoin” ที่ถือครองอยู่ออกมา

อย่างไรก็ตาม มุมมองของผู้เชี่ยวชาญคือ “ยังไม่น่าเป็นห่วงไปอีกอย่างน้อยเกือบๆ 2 ปี” เพราะวันชี้ชะตาที่แท้จริงยังอยู่อีกไกล สถานการณ์ปัจจุบันจึงเป็นการปูทางสู่สมรภูมิระยะยาวระหว่างบริษัทกับกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการโจมตีผ่านการชอร์ตเซลล์


ภาพรวมของ Bitcoin Winter ในครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องราวของการดิ่งลงเพียงมิติเดียว แต่เป็นช่วงเวลาที่ซับซ้อนของการเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดที่มีวุฒิภาวะมากขึ้น และในขณะเดียวกันก็เป็นบททดสอบกลยุทธ์ครั้งสำคัญของผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง MicroStrategy

อ้างอิงข้อมูลจาก: วิดีโอ “Bitcoin รอบนี้จะเด้งเร็ว หรือหน้าหนาวจะยาว ? MicroStrategy ยังเป็นโอกาสไหม ?” โดย ทันโลกกับ Trader KP และ ปกป้อง คล่องใจภักดี

แสดงความคิดเห็น

⚡สนับสนุน SorawichToday ผ่าน Bitcoin Lightning⚡
[email protected]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า