Skip to content

ลงทุนสไตล์นาโอมิ : สรุปจากรายการ Chat หุ้นชิวชิว EP.3

นาโอมิ: จาก ‘เด็กรับจ้างทำการบ้าน’ สู่ ‘เดอะแบก’ และนักลงทุนสไตล์ Hybrid 💰

คุณนาโอมิเป็นที่รู้จักในวงการการเงินและการลงทุนในฐานะพิธีกรและผู้ให้ความรู้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เรียนจบหรือทำงานเกี่ยวข้องกับการเงินโดยตรง แต่เส้นทางชีวิตของเธอกลับน่าสนใจและเต็มไปด้วยบทเรียน โดยเฉพาะเรื่องความมุ่งมั่นในการสร้างฐานะทางการเงินตั้งแต่วัยเยาว์จนกลายเป็น “เดอะแบก” หรือเสาหลักของครอบครัว และพัฒนากลยุทธ์การลงทุนในแบบฉบับของตัวเองที่เรียกว่า “การลงทุนแบบ Hybrid


จุดเริ่มต้น: ความมุ่งมั่นตั้งแต่วัยเยาว์ ✨

คุณนาโอมิเติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลางที่มีคุณแม่เป็นหัวหน้าครอบครัวเพียงคนเดียว ด้วยความที่อยากจะแบ่งเบาภาระของที่บ้าน เธอจึงเริ่มทำงานพิเศษทุกอย่างเท่าที่เด็กมัธยมปลายคนหนึ่งจะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นงานในร้านอาหาร หรือการทำสต็อกสินค้าในร้านเสื้อผ้า นอกจากนี้ เธอยังสร้างรายได้พิเศษด้วยการ “รับจ้างทำการบ้านให้เพื่อน” ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต่อยอดมาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย

ความมุ่งมั่นนี้ยังส่งผลไปถึงเรื่องการเรียน เธอตั้งใจเรียนอย่างหนักในชั้นมัธยมปลายเพื่อเก็บเกรดไปยื่นขอทุนการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ในที่สุดเธอก็สามารถเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิตด้วย “ทุนเรียนดี” ได้สำเร็จ ตลอดชีวิตในมหาวิทยาลัย เธอต้องรักษาระดับเกรดการเรียน ทำงานพิเศษ และรับจ้างทำการบ้านให้เพื่อนไปพร้อมๆ กัน หนึ่งในวีรกรรมที่น่าทึ่งคือการเขียนงานส่งอาจารย์ด้วยลายมือที่แตกต่างกันถึง 6 แบบ เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ว่าเธอเป็นคนทำทั้งหมด ซึ่งบางครั้งถึงกับต้องใช้มือซ้ายเขียนเพื่อให้ลายมือแตกต่างออกไป

เป้าหมายสำคัญของเธอคือการเรียนให้จบเร็วที่สุด เพื่อจะได้ออกมาทำงานหาเงินได้ไวขึ้น ด้วยเหตุนี้ เธอจึงวางแผนการเรียนอย่างรัดกุมและสามารถเรียนจบได้ภายใน 3 ปีครึ่ง แม้จะต้องแลกกับการใช้ชีวิตวัยรุ่นที่อาจไม่เต็มที่เหมือนคนอื่น แต่เธอมองว่าเป้าหมายในการดูแลครอบครัวนั้นสำคัญกว่า


สู่การเป็น “เดอะแบก” ของครอบครัว 💪

คุณนาโอมิเริ่มรับบทบาทเป็นหัวหน้าครอบครัวอย่างเต็มตัวในช่วงอายุ 24-25 ปี ซึ่งทำให้เธอได้รับฉายาว่า “เดอะแบก” อันหมายถึงคนที่ต้องแบกรับภาระของคนในเจเนอเรชั่นก่อนหน้าและเตรียมสร้างอนาคตของตัวเอง อย่างไรก็ตาม คุณนาโอมิกลับมองว่า เธอมีความสุขและเต็มใจอย่างยิ่งที่จะเป็น “เดอะแบก” เธอไม่เคยรู้สึกเหนื่อยกับการดูแลครอบครัว และดีใจทุกครั้งที่ได้มอบเงินให้คนที่เธอรัก เพราะมันคือการตอบแทนความรักและการเลี้ยงดูอย่างดีที่เธอได้รับมาตลอด


เส้นทางการลงทุนฉบับ “ขั้นบันได” 🪜

จุดเริ่มต้นความสนใจในการลงทุนของคุณนาโอมิมาจากคำว่า “Passive Income” หรือการให้เงินทำงานแทนเรา เส้นทางการลงทุนของเธอเปรียบเสมือน “ขั้นบันได” ที่ค่อยๆ ไต่ระดับความเสี่ยงขึ้นไป

  1. สลากออมสิน: เป็นการลงทุนอย่างแรกที่เธอเลือก เพราะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินต้นเป็นอันดับแรก โดยไม่คำนึงถึงเรื่องเงินเฟ้อเลยในตอนนั้น แม้จะไม่เคยถูกรางวัลใหญ่ แต่เธอก็ยังคงเก็บไว้ด้วยความหวังเล็กๆ จนถึงปัจจุบัน
  2. ทองคำ: ด้วยพื้นเพครอบครัวที่มีเชื้อสายจีน การซื้อทองคำเก็บจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่เธอก็พบว่าต้องใช้ระยะเวลานานมากกว่าจะเห็นผลตอบแทนที่ชัดเจน
  3. กองทุนและหุ้น: เมื่อเข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัย เธอเริ่มรู้จักการลงทุนในหุ้นจากรุ่นพี่ ตอนแรกเธอรู้สึกว่าหุ้นเป็นเรื่องไกลตัวและซับซ้อน แต่ก็ได้เริ่มศึกษาและลงทุนในที่สุด
  4. Cryptocurrency: เป็นสินทรัพย์ล่าสุดที่เธอลงทุน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่สุดในพอร์ตของเธอ

ปรัชญาการลงทุนสไตล์ “Hybrid” ⚖️

คุณนาโอมิเรียกสไตล์การลงทุนของตัวเองว่า “Hybrid” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความอนุรักษนิยม (Conservative) และการลงทุนที่เสี่ยงสูงขึ้น หัวใจสำคัญของปรัชญานี้คือ การจัดการเงินก่อนการลงทุน โดยเธอจะแบ่งเงินที่หามาได้ออกเป็นส่วนๆ ตามลำดับความสำคัญดังนี้

  1. เงินสำหรับครอบครัว: เป็นส่วนที่ต้องให้ก่อนเป็นอันดับแรกและต้องมีทุกเดือน
  2. เงินออมฉุกเฉิน: เก็บไว้เป็นเงินสดสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
  3. เงินลงทุน: แบ่งตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
  4. เงินใช้ส่วนตัว: เป็นส่วนสุดท้ายสำหรับความสุขของตัวเอง ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้

การแบ่งเงินเป็นสัดส่วนเช่นนี้ทำให้การลงทุนของเธอไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของครอบครัว ไม่ว่าพอร์ตจะกำไรหรือขาดทุนก็ตาม

  • การลงทุนระยะยาว: เธอเน้นลงทุนใน ทองคำและหุ้นปันผลของไทย โดยจะเลือกหุ้นที่มีความมั่นคง เข้าใจง่าย และให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ กลยุทธ์ของเธอคือการทยอยเติมเงินเข้าพอร์ตอย่างเดียว และจะรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อ ไม่ไล่ราคา
  • การลงทุนระยะสั้น: เน้นที่ Cryptocurrency เพื่อการเก็งกำไร โดยเธอย้ำเสมอว่าเงินที่นำมาลงทุนในส่วนนี้เป็นเงินที่พร้อมจะเสียได้ทั้งหมด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การจำกัดความเสี่ยง (Position Sizing) และการหาจุดตัดขาดทุน (Cut Loss) ให้เจอ

บทเรียนราคาแพง: เมื่อความมั่นใจกลายเป็นความผิดพลาด 📉

คุณนาโอมิได้แบ่งปันประสบการณ์ที่เจ็บปวดที่สุดจากการลงทุน ซึ่งกลายเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิต ในช่วงที่เธอกำลัง “มือขึ้น” จากการเทรด Futures ในตลาด Cryptocurrency และทำกำไรได้ต่อเนื่องทุกวันจนเกิดความมั่นใจเกินร้อย เธอได้ตัดสินใจ All-in ด้วย Leverage สูงสุด (125x) และที่สำคัญคือไม่ได้ตั้ง Stop Loss

ผลลัพธ์คือเธอตื่นขึ้นมากลางดึกและพบว่าพอร์ตของเธอกลายเป็นศูนย์จากการถูก Liquidate หรือ “พอร์ตแตก” เหตุการณ์นั้นทำให้เธอช็อกและตระหนักว่าความผิดพลาดทั้งหมดเกิดจากตัวเองที่ไม่ได้ใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่มีอยู่ บทเรียนครั้งนี้สอนให้เธอรู้ว่าต้องลงทุนในขอบเขตความเสี่ยงที่ตัวเองจัดการได้เท่านั้น


คำแนะนำถึงนักลงทุนมือใหม่ 💡

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน คุณนาโอมิให้คำแนะนำที่ชัดเจนและหนักแน่นว่า “จงจัดการการเงินของตัวเองให้ดีก่อน” ควรรับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้ ไม่สร้างภาระให้คนรอบข้าง ห้ามกู้ยืมเงินหรือนำเงินร้อนมาลงทุนเด็ดขาด และควรเริ่มต้นจากเงินของตัวเองในจำนวนที่พร้อมจะสูญเสียได้ ที่สำคัญที่สุดคือการถามตัวเองว่าเป้าหมายในการลงทุนคืออะไร และสร้างวินัยจากคำตอบนั้น เพื่อหาสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด


แสดงความคิดเห็น

⚡สนับสนุน SorawichToday ผ่าน Bitcoin Lightning⚡
[email protected]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า