Skip to content

[เรื่องเล่าความหลัง] | ค่ายคุณธรรม ม.4

ถึงแม้จะจบ ม.6 ไปแล้ว แต่ตลอด 15 ปีในการเรียนการศึกษาของผมก็มีเรื่องเล่ามากมายที่เล่าเป็นวันก็คงไม่หมด(มั้ง) บางเรื่องก็เป็นเรื่องดีน่าจดจำ บางเรื่องก็เลวร้ายบ้างตามประสาวัยรุ่นอ่ะเนาะ ก็จะเอามาเล่าสู่กันฟังละกัน

สำหรับในช่วงนั้นผมก็กำลังจะขึ้น ม.4 ที่โรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม ซึ่งทางโรงเรียนก็จัดให้มีกิจกรรมค่ายคุณธรรม จริยธรรม หลังปฐมนิเทศที่โรงเรียน โดยไปที่พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ในวันที่ 26-28 เมษายน 2556

โดยตอนนั้นผมรู้สึกเฟลมากๆ หลังจากก่อเรื่องจนไม่ได้เรียนต่อม.ปลายที่สวนนนท์ ก็เลยตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ดังนั้นตลอดค่ายนี้ผมไม่ก่อเรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว เรียบร้อยมาก (แต่พอกลับมาเท่านั้นแหละ เละตามเคย 555+)

ในวันแรกนั้นเราก็ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า โดยรถบัสพัดลมครับ ตอนนั้นผมนั่งกับ คมสัน (เพื่อนคนแรกของผมที่โพธินิมิตก็ว่าได้) เรานั่งคุยกันเข้าขากันมากครับช่วงนั้น แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องราวอะไรมาก ข้ามไปๆ (ฮา) มาถึงที่พุทธมณฑลกันประมาณสิบโมงกว่า ก็เอาของไปไว้ที่นอน แล้วก็ไปเข้าห้องประชุมครับ โดยวันนั้นพระอาจารย์ก็อธิบายกฎระเบียบในค่าย รวมถึงบทพิจารณาอาหารด้วย (ยาวดีแท้แล้วที่พีคสุดคือถ้ามีใครกล่าวผิดคำเดียวคนเดียวเริ่มใหม่แต่ต้นทั้งค่าย) แต่สำหรับผมผมจำได้คล่องเพราะที่รร.สมัยประถมเขาให้กล่าวทุกวันก่อนพักเที่ยง นั่นยังไม่พีคเท่าที่ว่า พอนั่งที่โต๊ะอาหารแล้วต้องนิ่งก่อนถึงจะให้กล่าวพิจารณาอาหารครับ แล้วมันก็ยังไม่พีคเท่า แม่งเล่นกันฉิบหายเลย! คือ แทบอยากตะโกนบอกเพื่อนๆว่า เงียบหน่อยแสรดกรูจะแดรกข้าว (ฮา) มื้อแรกก็เกร็งๆ แต่พอหลังๆลื่นปร๋อครับ

Untitled

พอกินข้าวเสร็จก็ไปเดินรอบพุทธมณฑลครับ เอิ่ม สักห้ากิโลได้ป่าวหว่า ไปศึกษาแหล่งเรียนรู้พะพุทธศาสนาในพุทธมณฑล ไปดูสังเวชณ๊ยสถานจำลอง ตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน วันนั้นมีการถ่ายทำรายการสามเณรปลูกปัญญาธรรมของทางทรูด้วย แต่ก็ไม่ได้ออกกล้องฮะ (เสียดาย) และก็ไปกราบองค์พระประจำพุทธมณฑล จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรฮะ ยาวมาก แล้วเราก็เดินกลับมา

วันแรกยังไม่มีอะไร (หรา) พอเย็นเราก็สวดมนต์ นั่งสมาธิกัน ตอนนั้นบอกเลยว่าผมนิ่งมากจริงๆครับ สำนึกผิดในเรื่องที่ก่อไว้ในอดีตนะตอนนั้น เสร็จแล้วก็ฟังพระอาจารย์อบรม มีเพื่อนผู้หญิงกลุ่มหนึ่งโดนทำโทษให้นั่งสมาธิประมาณชั่วโมงนึงถึงจะปล่อยเข้านอน ส่วนผมก็เข้านอนครับ แต่พอมาถึงห้องนอนเท่านั้นแหละครับ ผมก็ได้พบจุดพีคสุดของค่าย…

แอร์ห้องนอนเสีย!!!

โอย.. แมงเอยรอนชิปฮาย เลยครับ 5555+ พีคพอไหม แต่ไม่เป็นไร สีทนได้ อีกไม่นานก็ตื่นมาทำวัตรเช้าละ พอตี 5 พระอาจารย์ก็เรียกทำวัตรเช้า ลืมบอกไปครับ การเดินในค่าย ต้องเก็บมือสำรวมตลอดเวลา เดินเหมือนเดินจงกรมอ่ะครับนึกภาพตาม ผมก็ทำตามนะ เดินสำรวมตลอดเวลา แต่คนอื่นนี่สิ พระอาจารย์เผลอเจอกัน วิ่งเล่นสิครับรอไร

เดินจงกรม

พอทำวัตรเช้าเสร็จพระอาจารย์ก็พาไปเดินจงกรม รู้สึกสงบมากครัช ธรรมชาติอรรถรสมาก ก็ไม่มีอะไร ข้ามไปเลย…

นำเสนอกิจกรรม

มาถึงช่วงพีคอีกครั้ง ในช่วงกิจกรรมบนห้องประชุม เอิ่ม ดีแล้วเหรอเอาเราเป็นหัวหน้ากลุ่ม ดีแล้วเหรอให้เราไปนำเสนอบนเวที ตอนนั้นมีคนชมผมมากว่าผมกล้าแสดงออก กิจกรรมที่พีคสุดคงเป็นเกมสหกรณ์ ที่แบ่งเป็น4กลุ่มแล้วเป็นเกมกลยุทธ์อ่ะ ทุก5นาทีจะต้องไปเลือก ก ข กับพระอาจารย์ โดยจะมีเงื่อนไขเช่นแบบว่า เลือก ก ทั้ง 4 กลุ่ม หักกลุ่มละ 10 แต้ม เลือก ข3 ก1 กลุ่มขได้20แต้ม แต่กลุ่มกหัก10แต้มประมาณนี้ถือว่าแทรกแง่คิดด้านความสามัคคี ความเสียสละไปในตัวครับ หา ถามถึงผลของเกมน้นเหรอครับ เจ๊งสิครับ แหม่ เรียกได้ว่ารร.เราขาดทีมเวิร์คมากครับ คือ ตอนแรกพวกเรานึกว่าเราต้องแข่งกัน เราก็ใส่ไม่ยังสิครับ ผลคือตอนสรุปพระอาจารย์บอกว่าเกมนี้ถึงแบ่งเป็น4กลุ่มแต่ก็ทีมโพธินิมิตเหมือนกัน อ่าว.. ก็เละสิครับรอไร ผมเป็นหัวหน้าทีมด้วย จำได้เลยพอผมวางกลยุทธ์จะเลือก กหรือข ผมก็ยกวาทะกรรม “เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย” แต่พ้นไหมอ่ะเหรอ เละครับ

มาถึงคืนนั้นก็เรียกน้ำตาได้ขั้นสุดครับ กิจกรรมสุดคลาสสิค ระลึกพระคุณพ่อแม่ คลาสสิคมากครับคลิปตอนทำคลอด ดูแล้วสำนึกผิดขึ้นมาเลย ว่าเราทำตัวแย่มาตลอดเลย //ร้องไห้หนักมาก

และวันสุดท้ายเราก็ไปทำพิธีกันที่องค์พระฯกัน เวียนเทียนรอบองค์พระ ถ่ายรูปกันเสร็จ ก็กลับมาปิดค่าย พระอาจารย์ท่านมีกิจกรรม ผ้าป่ากิเลส ให้เราเขียนนิสัยที่ไม่ดีของเราลงกระดาษแล้วก็ถวายใส่ท่าน ผมก็เขียนไว้เยอะเลยครับ (ถึงแม้จะเลิกไม่ได้สักข้อก็ตาม) แล้วก็ให้เขียนคำถามถึงพระอาจารย์ ท่านก็อ่านแล้วตอบ ตั้งแต่เรื่อง นรกมีจริงไหม ทำยังไงจะได้บุญเยอะเวลาทำบุญ และก็มาถึงช่วงพีคอีกครั้งหนึ่งเมื่อมีคำถามที่ว่า

“พระอาจารย์เล่น HON เซิร์ฟไหนครับ”

เอ่อเว้ย ไอ้พวกนี้ (ฮาลั่นหอประชุม) ต้องสาระอย่างผมนี่ ดูผมถาม ขอถอดคำตอบของท่านมานำเสนอเป็นธรรมทานมา ณ ที่นี้นะครับ

Me : พระอาจารย์ครับ เขาบอกการ ภาวนา นี่ได้บุญมากใช่ไหมครับ (บุญกิริยาวัตถุ 10) แล้วถ้าผมนั่งสมาธิ แล้วจิดคิดฟุ้งซ่าน ยังจะได้บุญจากการภาวนาไหมครับ?
Monk : ความจริงถ้าเรารู้ว่าจิตฟุ้งซ่านมันก็แปลว่าเรามีสติรู้ตามความเป็นจริงแล้ว นั่นหมายถึงได้วิปัสนาส่วนหนึ่งแล้ว การภาวนาประกอบไปด้วยการสำรวมกาย วาจา ใจ เรานั่งสมาธินี่ก็เหมือนเป็นการสำรวมกาย เพราะเรานั่งอยู่นิ่งๆ สำรวมวาจา เพราะขณะนั่งเราไม่ได้ว่าร้ายใคร และใจในระดับหนึ่ง ถึงมันจะทำให้หยุดคิดไม่ได้ จริงๆเราหยุดคิดไม่ได้หรอก มันเป็นธรรมชาติของจิต แต่ถ้าไม่คิดอกุศลก็พอแล้ว สรุป ก็ยังได้บุญจากการเจริญภาวนาอยู่

//ทั้งเรื่องมีสาระแค่นี้แหละมั้ง

และผมก็ได้เป็นตัวแทนกราบขอขมาลาพระอาจารย์และเดินทางกลับเป็นอันเสร็จค่ายครับ

สรุป การไปค่ายคราวนั้น ช่วยให้ผมปรับปรุงตัวได้ 3 เดือน คือมันเกร็ง มันอึดอักมากนะ ข่มสันด_นตัวเองไว้อ่ะ สุดท้ายก็ข่มไม่อยู่ เป็นเหมือนเดิมสืบต่อไป…

รูปหมู่ 4/1

//Rewrite @2017

แสดงความคิดเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า