ทุกคนคงทราบดีแล้วนะครับว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา ได้เสด็จสวรรคตไปแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าอันเหนือจะอธิบาย ผมก็รู้สึกโศกเศร้าเหมือนกันครับ แต่ชีวิตเราก็ต้องดำเนินต่อไป และในวันที่ 22 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ผมก็ได้มีโอกาสไปสักการะพระบรมศพของท่านมา เลยจะมาเล่าประสบการณ์กันนิดนึง

03:30 – เดินทางถึงหน้าสนามหลวง
ผมมาถึงบริเวณท้องสนามหลวงเวลาตีสามครึ่งครับ ตอนนั้นคนแน่นมากและด้วยความที่เพิ่งมาครั้งแรกก็ยังทำตัวไม่ถูก เลยตามแถวไปที่ประตูหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ตามรูปด้านบนนั่นแหละคร้ับ ไปถึงก็นั่งรอเข้าไปลงทะเบียน ซึ่งประตูนี้เปิดตีห้าครับ แต่กว่าผมจะได้เข้าก็ล่อไปเกือบหกโมงเลยทีเดียว
06:00 เข้ามาภายในสนามหลวง
เมื่อเดินเข้ามาถึงทางเข้าก็ตรวจบัตรประชาชน ตรวจอาวุธ ซึ่งผมก็ไม่มีอยู่แล้วก็เดินผ่านไปได้ครับ มาถึงก็ต่อแถวเข้าไปนั่งภายในบริเวณที่เขาจัดไว้ให้เพื่อรอคิวเข้าสักการะฯ บอกเลยว่าแถวยาวมากกกกก วนรอบสนามหลวงเลยทีเดียว ไกลมาก
เดินตามแถวไปรอบสนามหลวง มีวนกลับมาด้วย แถวสองชั้นเลยทีเดียว ดังภาพด้านบนที่ผมตั้งชื่อภาพไว้ว่า “พสกนิกรรอการระบาย” คือ มันเยอะมากจริงๆครับ มาถึงตรงนี้ก็มีแจกโจ๊กแจกข้าวกันเป็นอาหารเช้า ผมก็รับมาทาน เป็นข้าวไก่กระเทียมกับโจ๊กไก่ครับ
09:10 ถึงหัวแถวซะที
ก็เดินไปในแถวแบบช้าๆ นี่แหละครับ แถมช่วงเจ็ดโมงมีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมด้วย ก็ทำให้แถวหยุดนิ่งไปเกือนครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุด เมื่อมาถึงหัวแถว ก็มีพี่ทหารมาแนะนำว่า จะให้เข้าไปนั่งรอคิวสักการะพระบรมศพ ตามเต้นท์หมวดอักษร ให้จำที่ตัวเองนั่งให้ดี รอบข้างก็เจอบูทของ AIS มาให้บริการโทรฟรี ชารจ์ไฟฟรี wifi ฟรีด้วยล่ะครับ
และผมก็ได้เข้าไปนั่งรอซะที โดยผมอยู่ที่แถว ช8 ก็นั่งรอไป พี่ๆทหารบอกว่าคงเที่ยงๆแหละ ตอนนี้เดินไปหาข้าวหาน้ำกินกันก่อนได้
น้ำใจคนไทย กับเหล่าจิตอาสาทำดีเพื่อพ่อ
ระหว่างเดินไปหาของกินก็ไปเจอน้องๆ ยุวกาชาดจตอาสาทั้งหลาย มาเดินเก็บขยะ รับขยะจากพี่น้องประชาชนผู้มาร่วมงาน รวมถึงน้องๆ นักศึกษาวิชาทหารที่อาสามาบริการน้ำดื่มให้พวกเราถึงที่เลย ทำให้ผมรู้สึกว่า ดีแหะ ดูเหมือนคนไทยสามัคคีกันมากขึ้นนะ และน้องๆก็น่ารักดีด้วย เลยไปขอถ่ายรูปเก็บไว้นิดนึง
ก็ชื่นชมความเป็นจิตอาสาของน้องๆ ทุกคนนะครับ พี่เห็นแล้วละอายใจมากเลย
อาหารพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 10
และพอเริ่มเที่ยง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ก็ได้พระราชทานอาหารแก่ประชาชนผู้มาร่วมงาน โดยที่ผมได้รับก็เป็นข้าวฉู่ฉี่ไก่ทอด อร่อยมากครับ ซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเลยทีเดียว และก็มีหน่วยงานต่างๆเอาอาหารมาบริการกันเต็มเลย
15:30 ได้เข้าวังแล้ว!
ก็มานั่งที่เต้นท์สลับกับออกไปหาอะไรกินข้างนอก จนถึงประมาณบ่ายสามครึ่งก็มีเสียงบอกว่า แถว ช จะได้ออกไปพระบรมมหาราชวังแล้ว ก็ดีใจครับ ภารกิจเราจะสำเร็จแล้ว อดทนอีกนิดเดียว ก็เดินออกจากสนามหลวงไปพระบรมมหาราชวังครับ เดินไกลแต่ไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อนเลย สงสัยเป็นเพราะพระบารมีของพระองค์ท่านมั้ง เดินไปถึงก็ไปนั่งรอบริเวณภาพวาดฝาผนังอ่ะครับ รอเกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้เข้าไปใกล้สถานที่ประกอบพิธีเรื่อยๆ จนกระทั่ง! ติดพระพิธีธรรมรอบเย็นอีก รอไปอีกครับ สุดท้ายก็ได้กราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสมใจในเวลาประมาณห้าโมงเย็น
ข้างในที่ไปกราบเขาห้ามถ่ายรูปครับ แต่ก็พอเก็บบรรยากาศภายนอกมาฝากกันได้บ้างครับ


สรุป
เป็น 14 ชั่วโมงแห่งการรอคอยที่ผมคิดว่ามีคุณค่ามากในชีวิตของผมเลยทีเดียว พอๆกับตอนเข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพฯเลยมั้ง ถ้าใครจะมาก็แนะนำให้มาเช้ากว่าผม (ตี3ครึ่ง) นะครับ เผื่อคิวจะสั้นกว่านี้ สุดท้ายนี้
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า นายสรวิชญ์ ชาญจิรกิตติ
#เราเกิดในรัชกาลที่ 9
ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ 🙂